แกสบี้เหมาะกับเราหรือไม่

คิดก่อนเลี้ยง

ใครที่คิดอยากจะหาซื้อเพื่อนที่แสนจะน่ารักเหล่านี้ ที่ดูเหมือนตุ๊กตา ขนยาว หน้าตาบ๊องแบ๊วน่ารัก จนอยากจะซื้อหามาไว้เป็นเพื่อนแท้ซักตัวแล้วล่ะก็ ช้าก่อนค่ะ กรุณาอ่านหน้าเว็บหน้านี้ก่อน แล้วตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้เสียก่อนค่ะ ว่าแกสบี้ เหมาะกับเรา หรือไม่
กรุณาอย่าเลย อย่าด่วนซื้อเพราะเห็นแล้วเกิดกิเลสอยากครอบครองเท่านั้น โดยไม่ศึกษาเสียก่อน อยากจะบอกว่าแกสบี้จำนวนไม่น้อยนะคะ ที่โดนเจ้าของทอดทิ้ง และ แกสบี้บางชีวิตเปลี่ยนเจ้าของไม่ต่ำกว่า 4 คน จนกระทั่งจากไปอย่างเดียวดาย

เพราะแกสบี้ไม่ใช่ของเล่นที่มีชีวิต คิดให้ดีๆ ก่อนที่จะตัดสินใจค่ะ

แกสบี้ เหมาะกับเราหรือไม่

1. แกสบี้อายุยืน
เพราะแกสบี้ มีอายุไข ที่ยืนถึง 5-7 ปีเลยทีเดียว เพื่อนๆ ลองค่อยๆคิดดุนะคะ ว่าเวลาที่ยาวนานขนาดนั้น เพื่อนๆ สามารถจะดูแลเค้าได้ จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเค้าหรือไม่ แกสบี้เค้าเป็นสัตว์ที่จดจำเจ้าของได้นะคะ เค้าจดจำได้แม้กระทั่งเสียงฝีเท้าของเจ้าของ เวลาเค้าโดนทอดทิ้ง เค้าน่าสงสารนะคะ

2. แกสบี้ต้องกินพืชที่มีกากใยเป็นอาหาร
อย่าเข้าใจผิดคิดว่า การเลี้ยงแกสบี้นั้น แค่ให้อาหารเม็ดก็พอนะคะ เพราะว่า ร่างกายเค้าย่อยด้วยแบคทีเรียค่ะ พืชผัก ต่างๆ โดยเฉพาะหญ้าขน จำเป็นมาก เพื่อให้สมดุลธรรมชาติของร่างกายเค้าให้พอดี ไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพตามมาแน่ๆค่ะ ที่สำคัญเลยนะคะ แกสบี้จะชอบหญ้าขนมากๆ เพื่อนๆ สามารถจะไปตัด ไปหาหญ้าขนมาให้เค้ากินได้บ่อยๆหรือไม่

3. แกสบี้ต้องการวิตามินซีเพิ่ม จากอาหาร เพราะสังเคราะห์เองไม่ได้
อันนี้สำคัญมากๆ ก่อนเลี้ยงต้องรู้ไว้เลยค่ะ แกสบี้ ต้องการวิตามินซี เสริมค่ะ เช่น ฝรั่ง หรือ เควี่ฟรุต เป็นต้น

4. แกสบี้ต้องได้รับการดูแลเรื่องขนและอาบน้ำ
เพราะว่า จะต้องอาบน้ำแกสบี้ประมาณ2 สัปดาห์ครั้ง แต่ว่าแกสบี้บางตัวจะทั้งดิ้น ทั้งข่วน (อันนี้จึงไม่เหมาะที่จะให้เด็กเล็กเลี้ยง เพราะอาจจะโดนข่วนแล้ว อาจจะตกใจปล่อยแกสบี้จม หรือ สำลักน้ำได้) เพื่อนๆจะต้องอาบน้ำ ไดร์เป่าขนให้แห้ง และยังต้องหมั่นหวีขนด้วย ไม่อย่างนั้นจะพันกันเป็นก้อนๆ

5. ต้องหมั่นทำความสะอาดกรง
เพราะว่า ฉี่ของแกสบี้ หากนองที่พื้นกรง จะมีกลิ่นแอมโมเนีย รบกวนทั้งเจ้าของ และระคายเคืองจมูกแกสบี้ ผุ้เลี้ยงบางคนต้องทำความสะอาดถาดรองทุกๆ 2 วัน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นค่ะ โดยเฉพาะที่เลี้ยงในห้อง

6. แกสบี้ต้องการหมอเฉพาะทาง
เพราะว่า เค้าตัวเล็ก ยากแก่การคำนวณปริมาณยา และด้วยอีกหลายๆสาเหตุ ไม่ใช่ว่าพาเข้าคลีนิคไหนก็ได้ และมีหมอที่เชี่ยวชาญอยู่ไม่มาก ดังนั้น ท่านสามารถจะพาเค้าไปหาหมอที่เชี่ยวชาญได้หรือไม่ เช่น ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตร เป็นต้น

7. แกสบี้เหมาะกับเจ้าของที่โตพอ
เพราะว่า ไหนจะตัดหญ้า อาบน้ำ ดูแลทำความสะอาดกรง เด็กอายุน้อยๆ ไม่สามารถทำได้ค่ะ ถ้าอยากจะให้เด็กเลี้ยง ควรจะให้เด็กมีอายุประมาณ 10 ปี ขึ้นไปจึงจะดีค่ะ

8. แกสบี้ไม่สามารถจะฝึกได้แบบสุนัข
เพราะว่า แกสบี้เค้าเป็นสัตว์กินพืช ซึ่งปกติสัตว์กินพืชจะไม่มีทักษะในการล่า หรือ การเรียนรู้ที่ดีเท่าสัตว์กินเนื้อค่ะ ดังนั้น การจะฝึกให้เค้าทำอะไรได้ขนาดสุนัขนี่ เป็นไปไม่ได้ค่ะ เช่นจะให้เค้าไปคาบลูกบอล หรือว่า กระโดดลอดห่วงนี่ เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ แต่ถ้าให้เรียกชื่อแล้วมาหาเนี่ย มีลุ้น
แต่เค้าจะน่ารักในแบบฉบับของเค้าเองค่ะ และเป็นมิตรกับทุกคน และจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยเสียงฝีเท้าของเจ้าของที่จะกลับมาบ้าน และจะเป็นเสียงแรกที่ร้องทักเมื่อเรากลับมาค่ะ

9. แกสบี้ไม่สามารถปกป้องตัวเองจากผู้ล่าได้
ใครเลี้ยงหมาแมวอยู่ในบ้านเนี่ย ต้องระวังให้ดีเลยค่ะ อย่าให้หลุดมาทำอันตรายเค้าได้นะคะ เค้าไม่สามารถจะหนีได้ทัน และเค้าก็ไม่มีทางต่อสู้ป้องกันตัวเองได้เลย

10. แกสบี้ เป็นสัตว์ที่อ่อนโยนไม่กัด
นับข้อเสียกันมาแยะแล้ว ใครอ่านมาถึงบันทัดนี้ได้แปลว่า สอบผ่านแล้วหละ แกสบี้เค้าเป็นสัตว์ที่สุภาพอ่อนโยนค่ะ ไม่ต้องกลัวเลยว่าเค้าจะกัดเรา หรือ ลูกๆ

11. แกสบี้ จดจำเราได้แม้กระทั่งเสียงฝีเท้า
เค้าจะสามารถจะจดจำเสียงและฝีเท้าเราได้ค่ะ แค่เดินมาเค้าก็ร้องเรียกแล้วหละ

12. แกสบี้ไม่ต้องเลี้ยงในที่กว้างๆ แอบเลี้ยงในอพาร์ตเมนต์ได้
ใช่แล้วค่ะ เหมาะกับคนขี้เหงา ที่ต้องอยู่คนเดียวในห้องสี่เหลี่ยม เค้าไม่ร้องพร่ำเพรื่อเหมือนกับสุนัขค่ะ ที่เห่าเสียงดังบ่อยๆเวลามีใครผ่านไปมา

13. แกสบี้เค้ามีภาษาของเค้าค่ะ ร้องได้หลายๆแบบ
เค้าจะมีภาษาเค้าค่ะ เราสามารถจะดูเค้าได้ง่ายจากเสียงร้องและท่าทาง หากเทียบกับกระต่ายแกสบี้จะดีกว่าตรงนี้ คือ เค้าจะส่งเสียงพูดคุย ส่งเสียงแปลกๆ ออกมา สื่อสารกับเราและเพื่อนๆของเค้า แต่กระต่ายนี่จะเงียบเสียส่วนใหญ่จะร้องเมื่อจำเป็นจริงๆ อันนี้จึงทำให้เราสามารถจะดูแกสบี้ได้ง่ายกระต่ายค่ะ ว่าเค้าป่วย หรืออะไรหรือไม่

การนำหนูแกสบี้ออกนอกบ้าน

การนำหนูแกสบี้ออกนอกบ้าน

หากเรามีความจำเป็นต้องพาหนูแกสบี้ออกไปข้างนอกกับเรา เราควรเช็คก่อนว่าสถานที่นั้นเค้าให้เรานำแกสบี้เข้าไปได้หรือไม่ และควรนำเค้าใส่ตระกร้า กล่อง หรือกระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงที่มีขายอยู่ทั่วไป โดยมีวิธีดังต่อไปนี้

1. เมื่อพาเค้าเดินทางด้วยรถยนต์ ควรนำเค้าใส่ตระกร้า กล่อง หรือกระเป๋า ที่มีขนาดเท่ากับตัวของเค้า อย่าเลือกขนาดที่ใหญ่เกินไป

2. นำผ้าขนหนูมารองก้นตระกร้า กล่อง หรือกระเป๋า หรือใช้ผ้าขนหนูห่อตัวหนูแกสบี้ไว้ จากนั้นค่อยปิดฝา แต่ต้องมีรูไว้ให้เค้าหายใจได้

3. อย่านำขวดน้ำใส่ลงไป เพราะมันรถสะดุดก้อนหิน จะทำให้น้ำหกได้ ควรใส่ผักหรือผลไม้ที่มีน้ำเยอะเช่นแตงล้าน แตงกวา บวบ แทน

4. ต้องระวังไม่ให้อากาศภายในรถหนาวหรือร้อนเกินไป

ผู้แนะนำบทความ : LiU_LiU

ขนของหนูแกสบี้

ขนของหนูแกสบี้

1. ขนธรรมดา จะมีลักษณะเหมือนขนของสัตว์ทั่วไป

2. ขนซาติน ขนจะนิ่ม และเงา เมื่อสะท้อนกับแสงจะเงาเป็นประกาย

3. ขนสปริทซาติน ขนจะนุ่ม แต่มีเส้นใหญ่กว่าซาตินเล็กน้อยสามารถแบ่งได้เป็น 3 อย่างได้แก่

- เงาแต่น้อยกว่าซาติน และมีขนนุ่ม

- ไม่เงาแต่มีขนแน่นและนุ่ม

- เส้นใหญ่เหมือนขนธรรมดาแต่จะเงาและนุ่ม

4. ไม่มีขน ตอนแรกเกิดจะมีขนเหมือนหนูแกสบี้ทั่วไป แต่ภายในหนึ่งสัปดาห์ ขนจะเริ่มร่วงตั้งแต่ตาและจมูก แล้วร่วงทั้งด้านหน้าและด้านหลังจนหมด แต่จะมีเส้นบางๆอยู่บ้างเช่น รอยยับบริเวณคางและข้อเท้า

ขอบคุณภาพจาก : ทองเทพเควี่ฮัท

ผู้แนะนำบทความ : หลิว LiU_LiU

ข้อแตกต่างระหว่างหนูขวัญกับหนูแกสบี้

ข้อแตกต่างระหว่างหนูขวัญและแกสบี้


หนูขวัญก็ถือว่าเป็นหนูแกสบี้เช่นกัน เพียงแต่ว่าราคาถูก และมีขวัญเยอะ หลายครั้งที่มีคนโพสถามว่านี่คือหนูแกสบี้พันธุ์อะไรค่ะ และคำตอบก็คือหนูขวัญ ซึ่งก็มีหลายคนเล่าให้ฟังเหมือนกันว่า เดินไปตามสะพานลอย หรือตลาดนัด แล้วไปเจอหนูขวัญ แต่คนขายบอกแกสบี้ เห็นว่าราคาถูกเลยซื้อ แต่พอรู้ว่าเป็นหนูขวัญก็เกิดอาการไม่อยากเลี้ยง จึงอยากบอกกับทุกคนว่าในเมื่อเราเลือกเค้ามาแล้วเราก็ควรจะเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด ไม่ว่าเค้าจะเป็นหนูขวัญหรือว่าหนูแกสบี้ก็ตาม แต่ที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะให้ผู้อ่านได้ศึกษา จะได้ไม่ถูกหลอกค่ะ ซึ่งข้อแตกต่างหนูขวัญกับหนูแกสบี้มีดังนี้ค่ะ

1. หนูขวัญจะหน้าแหลมค่ะ ส่วนแกสบี้หน้าจะมู่ทู่

2. สังเกตุได้ชัด หนูขวัญจะมีขวัญเยอะค่ะ มีขวัญกระจายอยู่รอบๆตัว ส่วนแกสบี้จะมีไม่เกิน 2 ขวัญค่ะ ส่วนแกสบี้ที่มีพ่อและแม่เป็นแกสบี้เหมือนกัน แต่ขวัญออกมาเกินนั้น เราเรียกว่าแกสบี้ขวัญเกินค่ะ แต่พ่อแม่ต้องไม่มีเชื้อหนูขวัญนะค่ะ ซึ่งก็พบเยอะค่ะโดยเฉพาะพันธุ์พีรูเวี่ยนซึ่งบ้างครั้งเค้าผสมกับโคโรเน็ต เลยทำให้ได้ขวัญเกินค่ะ

3. หูของหนูขวัญจะตั้ง ส่วนแกสบี้หูจะตกค่ะ

แกสบี้สัตว์เลี้ยงที่น่ารัก

มาทำความรู้จักกัน กับหนูแกสบี้ (thaihamsteronline)

• หนูแกสบี้เป็นสัตว์ที่สวยงาม และก็ยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมอีกด้วย อาจเป็นเพราะว่า สีต่างๆ และสายพันธุ์ต่างๆ มีความสวยงามเป็นลักษณะเฉพาะ ซึ่งหนูแกสบี้นั้นมีสีหลากหลายสี และ สายพันธุ์ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ขนสั้น ขนยาว หรือ แม้กระทั่งขนหยิก

• ทั้งนี้ หนูแกสบี้ในแต่ละสายพันธุ์นั้นก็อาจจะมีวิธีการเลี้ยงบางอย่างที่แตกต่างกันออกไป บางตำราบอกว่าหนูแกสบี้ นี้ที่จริงเขาไม่ได้เรียกกันว่า แกสบี้ แต่เรียกกันว่า "หนูเควี่(cavy)" หรือว่าหนูกินนี่พิก ส่วนชื่อแกสบี้เป็นชื่อที่คนไทยนั้นตั้งเอง ซึ่งหนูแกสบี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cavia porcellus

• สำหรับนิสัยของหนูแกสบี้เป็นสัตว์ที่เชื่อง จะมีหนูแกสบี้ส่วนน้อยเท่านั้นที่มีนิสัยก้าวร้าว แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ เพราะสิ่งต่างๆ นั้นสามารถฝึกฝนกันได้ หนูแกสบี้เป็นสัตว์ที่สามารถฝึกได้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกชื่อแล้วเดินมาหา หรือ การฝึกให้มีการอึหรือถ่าย ในสถานที่ๆ เราจัดเตรียมไว้ได้

• นอกจากนี้ หนูแกสบี้ยังเป็นสัตว์ที่มีอายุขัยได้ยาวนาน 5 - 7 ปีทีเดียว แต่ทั้งนี่ก็ต้องขึ้นอยูที่ผู้เลี้ยงด้วยว่าได้เอาใจใส่ และดูแลทำความสะอาดเขาได้ดีเพียงใด โดยหนูแกสบี้ที่มีอายุมาก มักจะไม่ค่อยวิ่งเล่นเท่าใหร่ ซึ่งพฤติกรรมต่างๆ ของหนูแกสบี้ ที่แสดงออกมาบ่งบอกถึงสภาวะอารมณ์ของเขาว่าเขารู้สึกอย่างไรไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง ลักษณะท่าทางต่างๆ ที่แสดงออกมา ซึ่งถ้าเพื่อนๆ เลี้ยงและเอาใจใส่เขาก็จะรู้ได้เลยว่าเขาต้องการอะไรและเขารู้สึกอย่างไร

สายพันธุ์ของแก๊สบี้

แก๊สบี้ มีลักษณะเด่นในแต่ละสายพันธุ์ตามมาตรฐาน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีแก๊สบี้เป็นสัตว์เลี้ยงแล้ว หรืออาจเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังมองหา คุณควรที่จะรู้ว่า แก๊สบี้ ที่เลี้ยงอยู่หรือกำลังมองอยู่เป็นพันธุ์แท้หรือไม่ ซึ่งสามารถเทียบลักษณะของแต่ละพันธุ์ได้ ดังนี้

1. พันธุ์ ENGLISH SHORT HAIR ลักษณะโดยทั่วไปจะมีขนสั้น ทิศทางของขนจะเรียบจากบริเวณศีรษะไปจนถึงท้ายลำตัว มีสีเดียวกันทั้งตัว

2. พันธุ์ ENGLISH CREATED มีลักษณะคล้ายพันธุ์ ENGLISH SHORT HAIR จะแตกต่างกันตรงที่มีขวัญบริเวณหน้าผาก

3. พันธุ์ AMERICAN CREATED มีลักษณะคล้ายพันธุ์ ENGLISH CREATED แต่จะมีข้อแตกต่าง คือ ขวัญบริเวณหน้าผากจะมีสีขาว

4. พันธุ์ ABYSINION (อาบิซิเนียน) ขนจะยาวปานกลาง มีขวัญกระจายไปทั่วลำตัว ไม่ค่อยนิยมในเมืองไทย เพราะมีลักษณะคล้ายแก๊สบี้ผสมหนูตะเภา

5. พันธุ์ PERUVIAN (เพอรูเวียน) ขนจะยาวและเหยียดตรง ทิศทางของขนจะย้อนจากท้ายลำตัวไปยังส่วนหัว มีขวัญบริเวณท้ายของลำตัว พันธุ์นี้จัดเป็นพันธุ์ยอดนิยมและเลี้ยงกันมากที่สุด

6. พันธุ์ SILKY (ซิลกี้) ลักษณะของขนจะยาวและเหยียดตรง ทิศทางของขนจะปกติ ซึ่งตรงข้ามกับพันธุ์ PERUVIAN ตรงที่ลำตัวหนากว่า

7. พันธุ์ CORONET (โคโรเน็ต) ลักษณะของขนจะยาว คล้ายพันธุ์ SILKY และมีขวัญบริเวณหน้าผาก จัดเป็นลักษณะพิเศษและน่าเลี้ยง เนื่องจากพันธุ์นี้ค่อนข้างหายาก

8. พันธุ์ TEXEL (เทคเซล) ลักษณะของขนจะยาวหยิก ทิศทางของขนเหมือน SILKY บางครั้งพันธุ์นี้จะมีชื่อว่า "พูเดิ้ล"

9. พันธุ์ MARINO (มาริโน) ลักษณะทั่วไปเหมือน TEXEL แต่จะมีขวัญบริเวณกลางหน้าผาก

10. พันธุ์ ALPACA (อัลปาคา) ลักษณะของขนยาวหยิก แต่ขนจะย้อนจากท้ายไปยังศีรษะ

11. พันธุ์ TEDDY BEAR (เท็ดดี้ แบร์) ลักษณะของขนจะสั้นและหยิกตามแบบของอเมริกา

12. พันธุ์ REX (เร็กซ์) ลักษณะของขนจะสั้นและหยิกตามแบบของอังกฤษ


อาหารหนูแกสบี้

อาหารที่ดีจะสามารถช่วยให้หนูแกสบี้ มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งอาหารของหนูแกสบี้มีทั้งแบบสำเร็จรูปโดยส่วนมากจะอยู่ในรูปของอาารเม็ด อาหารเหล่านี้มีขายอยู่หลายยี่ห้อทั้งของไทย - ของนอก ซึ่งเราควรเลือกซื้ออาหารที่ดีมีคุณภาพ สะอาด และต้องจำไว้ว่าอาหารสำเร็จรูปนั้นไม่ใช่อาหารที่ได้รับการเก็บไว้นาน ควรตรวจดูอาหารว่า มีเชื้อราหรือไม่ เพราะว่าอาหารจำพวกนี้ถ้าได้รับการเก็บรักษาไม่ดีแล้ว ความชื้น อาจจะทำให้อาหารนั้นเป็นเชื้อรา

ดังนั้น อาหารสำเร็จรูปที่ซื้อมาให้นั้น เมื่อเปิดถุงแล้ว ควรจะให้แกสบี้รับประทานให้หมด ภายในระยะเวลา 14 เดือน เพราะว่าถ้าเราเก็บไว้นาน สารอาหรก็จะลดน้อยลงไป และอาจจะทำให้อาหารเสื่อมคุณภาพได้อีกด้วย

ส่วนอาหารจำพวก พืช-ผัก เป็นอาหารที่มีคุณค่าและจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับหนูแกสบี้ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว

หนูแกสบี้เป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับกระต่าย คือ จะหากินหญ้าอ่อนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ผู้เลี้ยงอาจเลือกอาหารจำพวกผัก หญ้า อาจจะเป็นหญ้าแห้ง หรือหญ้าสดก็ได้ เพราะล้วนแต่มีคุณค่า และสารอาหารต่อหนูแกสบี้เหมือนกัน โดยหญ้าสดจะช่วยในการขับถ่าย และการย่อยอาหารได้ ส่วนหญ้าแห้งก็ช่วยให้หนูแกสบี้ไม่กัดกินขนตัวเอง โดยจะแทะ หรือกินหญ้า แทน

อย่างไรก็ตาม หญ้าสดที่ให้แนะนำเป็นหญ้าขน เพราะสามารถหาได้ง่าย และมีสารอาหารที่พอเหมาะกับเจ้าหนูแกสบี้ เมื่อได้หญ้าสดมาแล้ว ควรแช่น้ำเปล่า หรือน้ำทับทิม ทำความสะอาดและทำให้สะเด็ดน้ำก่อนที่จะให้หนูแกสบี้กิน และควรให้อาหารจำพวกหญ้าสดสลับกับการให้หญ้าแห้งอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าลืมว่าหญ้าสดที่ให้จะต้องสะอาดเท่านั้น ไม่เช่นนั้นล่ะก็อาจจะทำให้ หนูแกสบี้ท้องเสียได้ ดังนั้นการทำความสะอาดหญ้าที่จะนำมาให้หนูแกสบี้ก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่ง